วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

**【โปเม่】มาลงงานที่ส่งเข้าประกวดรอบฝรั่งเศสแก้ร้าง

สวัสดีค่ะ...

หายไปเป็นเดือนเลยล่ะค่ะ ถถถถถถว์
มีใครคิดถึงบ้างคะเนี่ย? เพอิญหนีไปป่วยดาบมาด้ว-----

สำหรับบทความนี้จะมาพูดถึง 【การประกวดตัวละครรอบวัฒนธรรมอาหารฝรั่งเศส】ค่ะ พึ่งหมดเขตไปเมื่อวันที่31กรกฏาที่ผ่านมานี้เองค่ะ ก็อยากจะแชร์ข้อมูลตัวละครกันหน่อย
แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าแทบจะไม่ได้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหารฝรั่งเศส ความจริงตอนแรกตอนที่พิมพ์ไฟล์ส่งไปมันก็เกิน1หน้า เลยพยายามย่อจนเหลือหน้าเดียวแล้วล่ะค่ะ

โดยรายละเอียดข้อมูลตัวละครเป็นดังต่อไปนี้(ขอไม่บอกข้อมูลข้าพเจ้าค่ะ)
ข้อมูลของตัวละคร 
ชื่อกุ๊กเวทมนตร์และชื่อจริงของตัวละคร : เออร์เบน(ร่างกุ๊กเวทมนตร์) เซอบลัง(ร่างจริง)
เพศ : หญิง 
วัน เดือน ปี เกิด : 19 กันยายน ค.ศ.1988 
ความสูง / น้ำหนัก : 175เซนติเมตร / 62 กิโลกรัม 
กรุ๊ปเลือด : A 
ฉายา : โรโคโคผู้ล้ำเลิศจากแดนไวน์ (โรโคโคแปลได้ประมาณว่า ‘ความฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น’) 
รูปร่าง หน้าตา และการแต่งตัว : เสื้อในร่างจริงนั้นมาจากการแต่งกายของชาวฝรั่งเศสสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ส่วนในร่างกุ๊กเวทมนตร์นั้นมาจากเครื่องแต่งกายของชาวฝรั่งเศสสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่15และนำหมวกมาจากภาพประกอบของหลวงพ่อเออร์เบนที่ทางผู้ออกแบบได้หาภาพมา และอัสโมเดียสนั้นได้นำแบบมา หน้าตาของเธอจะดูเด็กเกินอายุจริงของเธอเพราะเธอชอบแต่งหน้าและใส่น้ำหอมอยู่เสมอ
อุปนิสัยใจคอ : เธอเป็นคนที่หยิ่งยโสและมีความทะเยอทะยานมากในสายตาผู้อื่น แต่ความจริงแล้วนิสัยที่เงียบขรึมของเธอนั้นทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเธอหยิ่งยโส แต่นิสัยหยิ่งยโสของเธอนั้นก็มีบ้างในบางครั้ง
เวทมนตร์และความสามารถพิเศษ: สามารถเรียกอัสโมเดียสมาช่วยเธอได้ โดยเธอจะสามารถให้อัสโมเดียสทำในสิ่งที่เธอต้องการได้เพียง6อย่างต่อวัน(นำมาจากการรับประทานอาหารแบบฟูลคอร์สของฝรั่งเศส) ความสามารถพิเศษโดยติดตัวของเธอคือการวาดรูป โดยเธอชอบการวาดรูปแบบโรโคโค(บาโรก) ซึ่งเธอใช้ศิลปะแบบนี้ในการทำอาหารของเธอในบางครั้งด้วย (และเธอติดต่อกับอัสโมเดียสได้ทั้งในร่างจริงและกุ๊กเวทมนตร์โดยใช้ตุ้มหูและสร้อยคอเธอ)
ข้อมูลที่อยากเพิ่มเติม : ชื่อในร่างกุ๊กเวทมนตร์ของเธอนั้น มาจาก หลวงพ่อเออร์เบน กรานเดียร์ นักบวชคาทอลิกชาวฝรั่งเศส ส่วนอัสโมเดียสนี้ มาจากที่หลวงพ่อเออร์เบนมีเวทมนตร์เรียกปีศาจตนนี้มา ส่วนชื่อจริงเธอนั้น ได้ดัดแปลงเสียงจากคำว่า ‘sobre’ ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าเงียบขรึม และวันเกิดของเธอนั้น นำเลขวันที่มาจากวันที่เฉลิมฉลองศาสตร์การปรุงอาหารฝรั่งเศสเมื่อต้นปีนี้ ส่วนเลขเดือนนั้นมาจากนำเลขเดือนที่จัดงานนี้มายกกำลังสอง

ภาพตัวอย่างแบบตัวละครที่ส่งไป(ไม่ใช่ภาพเดียวกันกับที่ส่งทีมงานนะคะ อันนี้วาดเองอีกที เพราะต้องการโชว์เพียงส่วนหัว)


ความจริง ถ้าไม่กำหนดหน้า ตัวข้าพเจ้าเองอาจจะพลั้งเผลอพิมพ์เป็นเนื้อเรื่องตั้งแต่เด็กยันโตเลยก็ได้
สิ่งที่อยากได้ แต่จำเป็นต้องตัดออก คือ...
-เธอถอนคำสาปได้แล้ว
-เธอมักจะชอบเรียกอัสโมเดียสว่า "อัลโม" //สั้นๆง่ายๆได้ใจความเฉยๆค่ะ
-เธอไม่ชอบใส่ชุดที่มันรกๆ แต่ชอบทำอาหารแบบศิลปะรกๆ :v
-เธอไม่ชอบให้ใครมาทักว่าเธอเด็ก แต่ดันแต่งหน้าให้เด็ก
-เพราะความทะเยอทะยานของเธอ ทำให้เกิดเรื่องมากมายตั้งแต่เธอเด็กยันข้อมูลที่ข้าพเจ้าส่งให้ทางทีมงานค่ะ(ซึ่งไปเล่าต่อในส่วนเนื้อเรื่อง)
-ความจริงเธอเป็นอมตะ ซึ่งเธอพยายามมากจนได้เป็นอมตะได้ตั้งแต่อายุ20ต้นๆ(?)
-อัสโมเดียสไม่ได้รู้จักเซอบลัง(ชื่อตัวละคร) ตั้งแต่แรก มารู้จักแถวๆก่อนช่วงเธอเป็นอมตะ
-เธอเป็นคนสัญชาติฝรั่งเศส แต่มีเชื้อสายไทยและจีน
-เดิมทีเธอไม่ได้ถูกต้องคำสาป แต่เพราะไอ้ความทะเยอทะยานกับอัสโมเดียสเนี่ยแหละ ที่ทำให้เธอติดคำสาป
-ตอนแรกว่าจะให้สามารถสาปคนทั่วไปให้เป็นกุ๊กเวทย์ชั่วคราวโดยมีพลังไฟได้ด้วยแหละค่ะ ฮา

ซึ่งตอนแรกคิดเนื้อเรื่องตัวละครไว้ว่า.... (แต่เนื้อเรื่องดูมั่วเอาเรื่องค่ะ ฮา)

「ช่วงกำเนิด」
        เธอมีพ่อเป็นคนไทย และมีแม่เป็นคนจีนที่เข้ามาทำงานในฝรั่งเศส ก็ ตอนที่แม่เธอคลอดเธอออกมา หน้าตาเธอดูสวย(?) และทำหน้าบึ้งๆ เอาง่ายๆคือไม่ยิ้ม และไม่ร้องไห้เสียด้วย ความรู้สึกที่พ่อแม่เธอเห็นเธอเมื่อตอนเธอเกิด ก็อยากจะตั้งชื่อลูกให้มันดูสมภาษาฝรั่งเศสซะหน่อย แต่หน้าตาดันไม่ตรงกับชื่อที่คิดเอาไว้ แต่สุดท้าย ก็ตั้งชื่อตามที่ไม่ได้คิดไว้ว่า 【เซอบลัง】ที่แปลว่าเงียบขรึมนั่นเอง ตอนแรกครอบครัวเธอเหมือนจะมีความสุข... แต่มันก็ไม่ใช่
「ช่วงวัยเด็ก」
         เมื่อช่วงเธอเข้าอนุบาลได้  เธอไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะผลจากที่เธอทำหน้าตอนเกิดนั่นแล เธอทำสีหน้าอื่นไม่ค่อยนอกจากหน้าบึ้งๆนั่น หลายคนจึงกลัวที่จะเข้าหาเธอ และไม่ใช่แค่สีหน้าที่เธอทำ การเรียน การกระทำของเธอก็ด้วย เธอเรียนเก่งจนเกือบที่สุดในห้อง และยังมีจินตนาการที่ชอบทำงานศิลปะแบบรกๆ แต่กลับดูดี ซึ่งเธอก็ได้บอกกับเพื่อนในห้องของเธอไปว่าเธอชอบแบบนี้ เพื่อนเธอจึงปล่อยมันผ่านๆไปแบบไม่ได้สนใจ แล้วก็กลับมาถามแบบนี้ใหม่กับเธออีกครั้งจนเธอเริ่มจะรำคาญเพื่อนตัวเอง และไม่พอ บางทีที่เธอไปทักเพื่อน แต่เพื่อนกลับทำท่าเมินหนี นั่นทำให้เธอรู้สึกเบื่อชีวิตตัวเองเช่นกัน
เธอไม่ปรึกษาใครทั้งนั้น ทั้งพ่อแม่ หรือคุณครู จนอยู่ดีๆ เธอได้ขอพ่อแม่เธอไปลาออกจากโรงเรียนแห่งนี้ แต่แน่นอนว่าพ่อแม่เธอไม่อนุญาต เพราะมันมีความจำเป็นในการทำงาน และเธอก็ได้ทนเรียนในที่แห่งนี้เรื่อยๆจนเมื่อถึงช่วงประถม
「ช่วงประถม」
        ความจริงจะกล่าวว่าเธอก็ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดิมนั่นแล แต่เพียงแต่ เมื่อเธอจบอนุบาลไปแล้ว เธอจะต้องย้ายห้องใหม่เหมือนกับเพื่อนๆเธอทุกคน ทุกคนดูเปลี่ยนไปหมด แต่เธอยังเหมือนเดิม แถมมีนิสัยใหม่ที่กลั่นกรองมาจากความคิดเธอด้วยคือ 【ไม่คุยกับใคร】และ【หยิ่งยโส】 แต่สิ่งที่คิดกลับผิดคาด เมื่อเธอเข้าชั้นประถมแล้ว กลับมีเพื่อนมาหาขอเป็นเพื่อนกับเธอมากกว่าที่คิดไว้ เธอไม่ได้ต้องการจะมีเพื่อน แต่สุดท้ายเธอก็ยอมใจอ่านรับเพื่อนมาตั้ง1คน (เรอะ?) เธอรู้สึกตื่นเต้นมากที่เธอได้เพื่อน จนเธอเริ่มสับสนว่าเธอต้องการอะไรในชีวิตเธอกันแน่ จนไปปรึกษาเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอ เพื่อนของเธอตอบกลับมาว่า【ความสนุกและความสุขในชีวิต】ไงที่เราต้องการ
      เธอสับสนเล็กน้อย และคิดถึงเรื่องนี้จนถึงประถมปลายได้ และเธอก็ได้คนพบความต้องการของเธอ... แต่ขอเล่าต่อ เรื่องความต้องการค่อยไปต่อที่มัธยมต้น ช่วงที่เธอยังหาความต้องการไม่ได้ เธอก็อยู่ชีวิตตามปกติของเธอไป จนมีวันหนึ่ง ที่พ่อเธอเสียชีวิตไป... ขณะที่ครอบครัวและญาติๆของเธอก็ร่วมแสดงความเสียใจ แต่เธอดันไม่รู้สะทกสะท้านใดๆทั้งสิ้น(ดีเหลือเกินนะเธอ?) เพราะเธอไม่เคยมีเพื่อน ทำให้เธอไม่ค่อยจะสนใจกับคำว่า【ความรู้สึกของผู้อื่น】และ【ความเศร้าโศกเสียใจทั้งของตนเองและผู้อื่น】 สำหรับความสนใจของเธอ ไม่ว่ารอบข้างจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็ไม่ได้สนใจหรือแยแสแม้แต่น้อย
「ช่วงมัธยมต้น」
      ในที่สุดเธอก็ได้ความต้องการใหม่มาซักที เธอแยกมันออกเป็นส่วนๆในด้านความต้องการของเธอคือ【หน้าที่อ่อนวัย】【เป็นอมตะ】【สามารถใช้เวทมนตร์ได้】แต่มันเป็นความฝันที่เป็นไปไม่ได้แน่นอนสำหรับยุคของเธอ(ก็กำหนดไว้เกิดปี1988 ก็คงจะช่วงแถวๆยุคปัจจุบันนี่แหละค่ะ หึหึ) แต่เธอดันพยายามตามล่าความฝันนี้ของเธอ ซึ่งแม่ที่เหลืออยู่คนเดียวของเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นลูกของตนเองตั้งใจเรียนและเก่งในหลายๆด้านมาก จนขนาดเพื่อนห้องเธอยังล้อว่า【โรโคโคผู้ล้ำเลิศ】เธอคิดว่ามันเป็นคำล้อที่แปลกไปหน่อย แต่สำหรับเธอแล้ว ชีวิตในวัยมัธยมของเธอสนุกกว่าประถมมาก เพื่อนเมื่อช่วงประถมมักเล่นอะไรที่มันพิเรณและน่ารำคาญสำหรับจิตใจเธอ ในช่วงมัธยมเธอก็มีเพื่อนเหมือนกัน แต่ก็ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนเพราะมักจะมาปรึกษาอะไรเธอเสมอ จนกลายเป็นว่าความหยิ่งยโสของเธอแทบจะโดนตัดออกในลิสนิสัยได้ในทันตา
「ช่วงมัธยมปลาย」
      จากในช่วงมัธยมต้น จิตใจของเธอโดนกลั่นกรองไปพอสมควร แน่นอนว่านิสัยก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย เธออารมณ์ดีขึ้นมานิดนึง นิสัยหยิ่งยโสเธอจะหยิ่งให้เฉพาะคนที่หยิ่งใส่เธอก่อน แต่นิสัยเงียบขรึมของเธอก็ยังติดตัวอยู่ดี และทั้งมัธยมต้นและปลายเธอก็เป็นคนสอนการบ้านหรืองานต่างๆให้เพื่อนในห้องของเธออยู่ดี ส่วนเรื่องความต้องการของเธอ เธอก็พึ่งค้นพบแววทางความสำเร็จของเธอก็เร็วๆนี้เช่นเดียวกัน เพราะเธอได้รู้จักกับเครื่องสำอางเมื่อช่วงแถวๆเมื่อเธอกำลังเข้ามัธยมปลาย แต่เธอก็ถูกห้ามใช้เพราะยังไม่ขึ้นมหาลัย และเพื่อนๆของเธอก็บอกอยู่แล้วว่าเธอหน้าเด็ก แต่ที่ดูไม่เด็กเพราะเธอชอบทำหน้าบึ้งๆอยู่เสมอ แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนอย่างเธอเลยซักนิด เธอปล่อยวางมัน หันมาสนความต้องการอีกสองอย่างของเธอแทน จนแม่เธอได้ยื่นหนังสือเกี่ยวกับวิชาเต๋าให้เธอ และเกี่ยวกับบุคคลที่ทำสัญญากับปีศาจ เธอหลงใหลมันมาก จนเธอได้แต่ภาวนาและได้ทำอะไรพิเรนๆจนร่างกายเธอเริ่มอ่อนแอ จนคนเป็นแม่ได้คิดว่าคิดถูกรึเปล่าที่ได้ให้หนังสือสองเล่มนั้น ผู้เป็นแม่จึงตัดสินใจพยายามเปลี่ยนนิสัยลูกของตนเอง แต่เธอกลับดูออก และได้ขอให้แม่อย่าห้ามตน แต่ไม่เป็นผล และเธอรำคาญมาก เธอจึงตัดสินใจที่จะสังหารแม่ตนเองด้วยวิธีการ【ทำอาหารที่ชวนทานแต่เต็มไปด้วยพิษร้าย】ให้แม่ตนเองทาน แต่เธอคิดไว้ว่าจะไม่ทำในเร็วๆนี้  เพราะเธอยังมีธุระให้ทำมากมาย
「หลังจบมัธยมปลาย」
      ในพิธีกล่าวลานักเรียน เธอแอบหนีไปอู้อยู่แถวๆสนามหญ้า เพราะเธอเบื่อเวลามีงานเยอะๆหรือที่ที่มีเสียงคนตะโกนไปมา เธอก็เจออะไรไม่รู้หล่นมาใส่เธอซะงั้น...
.......เหมือนปีศาจชะมัด หัวก็แดง ตัวก็แดง ยังมีปีอีก แถมยังหนักด้วย เป็นตุ๊กตาที่เหมือนจริงดีนะ? เธอคิดอย่างนั้น แต่อยู่ดีๆก็มีคำพูดออกมาจากปากตุ๊กตาตัวนี้
"ขอบคุณที่ช่วยข้า เจ้าต้องการอะไรตอบแทนไหม?"
       เธออึ้งซักพัก และเธอไม่เชื่อด้วย(เพราะตุ๊กตาพูดได้) แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เธอเป็นคนทะเยอทะยานกับชีวิตตัวเองเพื่อสิ่งที่เธอต้องการที่อยู่ตรงหน้า...
......ลองเสี่ยงดูคงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง?......
      เธอตอบตกลง และได้ถามชื่อจากตุ๊กตาพูดได้ตัวนี้ ตุ๊กตาสีแดงตัวนี้ได้บอกว่าตัวเขานั่นชื่อ "อัสโมเดียส" แต่จะเรียกสั้นๆก็ได้เพราะชื่อมันยาว และตัวอัสโมเดียสนั้นเป็นปีศาจ แต่อัสโมเดียสได้ถามเธอไปว่า 【ต้องการอะไรจากข้า】ง่ายๆเหมือนเดิม
"ฉันต้องการชีวิตที่เป็นอมตะและมีเวทมนตร์"เธอพูดไปด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นมานานหลายปี เจ้าตุ๊กตาปีศาจนั่นกลับหัวเราะด้วยความตลบขบขัน เสมือนเป็นคำขอที่ง่ายที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
"เจ้าสนใจจะลองเป็นกุ๊กเวทมนตร์ดูไหม"
อารมณ์ของเซอบลังเมื่อได้ยินประโยคคำถามนี้ เธอแทบจะสะดุ้งเพราะเธอไม่เคยคิดจะเป็นกุ๊กมาก่อน แต่แค่เธอได้ยินคำว่าเวทมนตร์ก็เหมือนพาเธอเข้าสู่แดนสวรรค์ที่เธอต้องการเสียซะแล้วล่ะ โดยไม่ได้ฟังข้อเสียของกุ๊กเวทมนตร์เลยแม้แต่น้อย....

และภายหลังเธอก็พึ่งมารู้เอาว่ากุ๊กเวทมนตร์ที่ว่า "ไม่สามารถทำอาหารได้" โดยต้องรวบรวมเมนูให้ครบเสียซะด้วย เธอแทบจะฉีกหนังสือที่ไว้รวบรวมเมนูทิ้ง เพราะที่เธอต้องการเวทมนตร์เพราะความสะดวกสบาย ไม่ใช่ "ลำบาก" แต่เธอก็จำใจต้องเก็บเมนูเพื่อถอนคำสาปอยู่ดี


รู้สึกขี้เกียจพิมพ์ต่อ เนื้อเรื่องอาจดูแปลกๆไปหน่อยละกันนะคะ เนื่องจากไม่เคยพิมพ์นิยาย จะเคยพิมพ์แต่ก็พิมพ์เป็นช่องแบบขี้เกียจๆแบบการผจญภัยของนิก----

แต่ก็พยายามจะมาพิมพ์เป็นนิยายให้ได้ละกันนะคะ(?) แต่อันนี้มันย่อๆ--- ตอนแรกคิดไว้อยู่เหมือนกันว่าจะให้ตัวละครตัวนี้เข้ามหาลัยอะไรกันนะ คณะอะไรกันนะ เยอะแยะค่ะ แต่ขี้เกียจแล้วจริงๆ---

ลาก่อนสำหรับบทความนี้ค่ะ ถถถว์

ปล.หน้าตาตัวละครคิดอยู่ว่าจะวาดออกมาอย่างไรให้ดูเหมือนหน้าที่สงบ แต่คาแรคเตอร์ไม่ค่อยยิ้มแน่นอนค่ะ ฮา

----------------------------------------
-------------------------------------
--------------------------------
---------------------------
-----------------------